top of page
  • Writer's pictureFinPrime

ไม่ยอมจ่ายหนี้บัตรเครดิตแล้วจะเป็นยังไง


คงมีหลายคนสงสัย หรือถ้าใครกำลังคิดอยากลองดูล่ะก็คงต้องกระซิบบอกเลยว่า อย่าเด็ดขาด เพราะสถาบันการเงิน หรือ ธนาคารจะทำการออกใบทวงบิลรวดเร็วดุจจรวด ส่งมาถึงหน้าบ้านของเราทันทีที่หยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการทวงเหล่านี้ก็จะถูกนับเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ลูกหนี้ต้องจ่ายคืนด้วย 😥


และเมื่อไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตนานติดต่อ ครบ 3 เดือน ประวัติการชำระหนี้ของเราก็จะกลายเป็นสถานะหนี้เสีย และถูกบันทึกในเครดิตบูโรทันที ส่งผลให้ไม่สามารถกู้และทำธุรกรรมสินเชื่อสถาบันการเงินอื่นได้ รวมไปถึงการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือ รีไฟแนนซ์หนี้สินอื่นๆได้ยากขึ้นเช่นกัน


เมื่อเราไม่สามารถรีไฟแนนซ์หนี้เสียได้ และไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนได้ทันตามระยะกำหนด ในที่สุดทางธนาคารหรือ สถาบันการเงินก็จะทำเรื่องฟ้องและส่งหมายศาลมาที่บ้าน โดยคดีค้างชำระหนี้บัตรเครดิตจำถือว่าเป็นคดีแพ่ง ไม่ว่าคุณจะมียอดหนี้เท่าไหร่ก็สามารถฟ้องได้



ในกรณีที่เราเพิกเฉย ไม่สนใจ ไม่ไปศาล หรือถ้าไปประนอมหนี้แล้วยังไม่จ่ายตามตกลงอีก ฝ่ายเจ้าหนี้ก็อาจทำเรื่องขอยึดทรัพย์สิน หรืออายัดเงินเดือนของเราแทนได้ในทันที 😫


ฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มจ่ายไม่ไหวแล้ว อย่าหนีหนี้ไม่จ่ายบัตรเครดิต แต่ทางทีดีทีสุดคือให้เข้ามาคุยกับทางธนาคารหรือเริ่มต้นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะดีกว่า




 

สรุปให้ว่าหากคิดจะหยุดชำระหนี้บัตรเครดิตแล้วจะเกิดอะไรต่อไปบ้าง





  • เมื่อหยุดจ่ายธนาคาร หรือ สถาบันการเงินจะออกใบทวงบิลมาตามถึงที่บ้าน (การทวงจะนับเป็นค่าใช้จ่ายที่ลูกหนี้ต้องจ่ายชำระคืนด้วยนะ)


  • จะกลายเป็นสถานะหนี้เสียและถูกบันทึกในเครดิตบูโรทันทีเมื่อไม่จ่ายครบ3เดือน ส่งผลให้ไม่สามารถกู้หรือทำธุรกรรมสินเชื่อได้ รีไฟแนนซ์บัตรก็ทำได้ยากขึ้น


  • สถาบันการเงินจะทำเรื่องฟ้องและส่งหมายศาลมาที่บ้านถ้าไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ตามกำหนด หนี้บัตรเครดิตถือเป็นคดีแพ่งสามารถโดนฟ้องได้เต็มจำนวน


  • หากยังเพิกเฉย ไม่สนใจ ไม่ไปศาล หรือไม่จ่ายชำระตามข้อตกลงหลังจากการประนอมหนี้แล้ว เจ้าหนี้อาจยื่นขอยึดทรัพย์สิน หรืออายัดเงินเดือนได้


  • เมื่อรู้ว่าเริ่มมีปัญหาการจ่ายชำระแล้ว เลือกหันมาคุยกับทางธนาคาร หรือเริ่มต้นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจึงเป็นทางเลือกที่ดีทีสุดกับประวัติการเงินของเราเอง







bottom of page